Thursday, July 07, 2005

คาราบาว(เเดง)


ขึ้นหัวข้อด้วยคำว่าเเดงอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าชอบสีเเดงเป็นพิเศษนะครับเเต่เป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้นเอง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาไปดูการเเสดงสดของวงขวัญใจตลอดกาลของผม คาราบาว ที่วัดลาวพุทธวงศ์ Virginia เลยอยากเขียนอะไรที่เกี่ยวกับวงดนตรีที่ชื่นชอบสักหน่อย
ผมชื่นชอบ คาราบาว มาตั้งเเต่เด็กทั้งเนื้อหาที่สะใจ ตรงใจเด็กบ้านนอกอย่างผม เเละทำนองที่ฟังง่าย สนุกเเบบสามช่าเมืองไทย ผมติดตามผลงานของวงนี้มาเเทบทุกชุด สังเกตุเห็นความเปลี่ยนเเปลงของดนตรี เเละนักดนตรี

เดิมทีเนื้อหาเพลงของคาราบาวค่อนข้างหนัก เน้นและสะท้อนให้เห็นถึงความไม่เป็นธรรมในสังคมดังเช่นในเพลงถึกควายทุย ภาคเเรกๆ บางครั้งมีการนำเสนอชีวิตชาวบ้านในชนบทที่สวยงาม เเละไม่สวยงามสลับกันไป เเละเเน่นอนการเสียดสีสังคม นโยบายรัฐบาล มีให้เห็นในเเทบทุกชุด

จุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ผมจำไม่ได้เหมือนกันว่ากี่ปีมาเเล้ว คาราบาวกลับมารวมตัวกันใหม่หลังจากระเห็จระหกระเหินหายกันไปนานเเต่คราวนี้กลับมาทำเพลง พร้อมด้วย เครื่องดื่มชูกำลัง พร้อมกับกำลังการตลาดที่มากขึ้นกว่าเดิมเยอะ

กลับมาเรื่องคอนเสิร์ตดีกว่า เปิดเวทีด้วยเพลงลุงขี้เมา เเล้วก็เมดอินไทยเเลนด์ ตามมาด้วยเพลงเดือนเพ็ญ พอเพลงนี้ขึ้นผมขนลุกเลย เสียงของคุณเเอ็ด คาราบาวยังคงความขลังเหมือนเดิม นุ่มเเต่เเฝงด้วยพลัง ผมคิดถึงบ้านขึ้นมาทันที ทั้งๆที่ตอนนั้น เเดดตรงหัว ร้อนเเทบตาย เเต่ไม่รู้เป็นยังไงรู้สึกว่ามีดวงจันทร์อยู่ตรงหน้าจริงๆ

ผมไม่เคยดูคอนเสิร์ตคาราบาวที่เมืองไทยเลย ซื้อเทปฟังอย่างเดียว มาเล่นคอนเสิร์ตที่เมกาคราวนี้ คาราบาวมาเเปลก มีการโฆษณาขาย คาราบาวเเดงด้วย อย่างว่าละครับ ลงทุนกันไปเเล้วก็ต้องพยามขายเพื่อหารายได้ทำกำไรกันให้ได้ นักดนตรีก็หน้าตาเเปลกไป พวกหน้าเก่าก็หน้าเปลี่ยนโหงวเฮ้งดีขึ้นเยอะเรียกว่ามาดโทรมๆ เเบบเมื่อก่อนไม่มีให้เห็นอีกเเล้ว นอกจากนั้นยังมีนักดนตรีหน้าใหม่ๆ มาเพิ่มด้วย ซึ่งบางคนผมต้องยอมรับครับว่าไม่รู้จัก

ผมไม่เห็นด้วยนะครับที่คาราบาวมาทำเครื่องดื่มชูกำลังขาย ก็รู้ๆกันอยู่ว่ามันไม่ได้ช่วยให้คนไทยมีประสิทธิภาพการทำงาน และคุณภาพชีวิตดีขึ้น เมื่อก่อนคุณเเอ๊ดก็เคยตำหนิผู้ผลิตเครื่องดี่มประเภทนี้มาก่อน เเต่เเล้วก็มาทำเอง (ไม่รู้ไปได้สูตรที่ดีกว่าหรืออย่างไร ถึงมาทำ) ถึงผมจะไม่เห็นด้วย เเต่ก็เข้าใจนะครับที่คาราบาวทำลงไป เมื่อถึงยุคที่เศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนด้วยพลังทุนนิยม เงินก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกๆคน ต้องมีเพื่อใช้กินใช้อยู่ คาราบาวก็เช่นกัน เมื่อสมาชิกในวงเพิ่มขึ้น รายได้จากดนตรีอย่างเดียวก็คงจะไม่พอซะเเล้ว ขายบาวเเดงนี่เเหละง่ายดี ยังไงภาพของคาราบาวก็ขายได้อยู่เเล้วในหมู่คนรายได้น้อยชี่งเป็นกลุ่มบริโภคหลักของเครือ่งดื่มชูกำลัง มันคงเหมือนที่คุณเเอ๊ดพูดก่อนจะเล่นเพลงทะเลใจเเหละครับ "ถ้าหากคนเราสามารถเอาชนะกิเลส ตัณหาได้ก็ไม่ต้องตกอยู่ในวงวนของความวุ่นวาย"

ผมเดินออกจากคอนเสิร์ตทั้งที่การเเสดงยังไม่จบเนื่องจากต้องรีบกลับซะก่อน เสียดายจริงๆ เเต่ยังไงก็มีความสุขครับ ได้ฟังเพลงที่ชอบสดๆ มันเหมือนได้ย้อนกลับไปหาอดีตสมัยที่ยังอยู่บ้านนอกอีกครั้งหนึ่ง

2 comments:

kickoman said...

น่าจะถ่ายรูปพี่ละมั่งมาลง จะได้รู้ว่าแฟนตัวจริงหน้าตาเป็นไง

pin poramet said...

อยากเห็นด้วย

น่าชวนแกเขียน blog นะ เล่าเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวสแกนดิเนเวีย จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ฯลฯ ที่เล่าให้พวกเราฟัง

ส่วนคาราบาว ชุดเก่าๆ สมัยพีคๆ ก็ชอบเหมือนกัน เพลงที่ฟังบ่อยสุดตอนนี้คือ สัญญาหน้าฝน